การริเริ่มติดตั้งเครือข่าย 6G ต้นแบบในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของรัฐบาลไทยในการผลักดันประเทศขึ้นสู่เวทีผู้นำด้านเทคโนโลยีในภูมิภาคอาเซียน ความเคลื่อนไหวดังกล่าวอยู่ในแผนยุทธศาสตร์ระดับชาติที่ต้องการเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจดิจิทัล โดยมุ่งเสริมสร้างความแข็งแกร่งของโครงสร้างพื้นฐาน สร้างสภาพแวดล้อมดิจิทัลที่ปลอดภัย ตลอดจนยกระดับบุคลากรด้านเทคโนโลยีและปัญญาประดิษฐ์ให้พร้อมรองรับการเปลี่ยนแปลงระลอกใหม่ในระดับภูมิภาค
สำนักงาน กสทช. ได้ประกาศแผนประมูลคลื่นย่านความถี่ 2100MHz และ 2300MHz ในช่วงต้นปี 2568 เพื่อรองรับการทดสอบและขยายโครงข่าย 5G-A (5G-Advanced) และการพัฒนา 6G อย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งความร่วมมือกับภาคการศึกษา เช่น จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยในการทดสอบการใช้งานคลื่น 6GHz สำหรับเทคโนโลยีโทรศัพท์เคลื่อนที่ ช่วยเปิดทางให้เกิดการพัฒนาและวิจัยเครือข่ายไร้สายยุคถัดไปในไทยอย่างต่อเนื่อง
EEC: ฐานทัพ “ฮับดิจิทัล” สู่ภูมิภาค
พื้นที่ EEC กลายเป็นศูนย์กลางของโครงการนำร่องและสภาพแวดล้อมทดสอบเทคโนโลยีใหม่ในระดับอาเซียน รัฐบาลผลักดันโครงการ Digital Park Thailand และ IoT Institute ใน EEC เพื่อสร้างระบบนิเวศนวัตกรรม ครอบคลุมตั้งแต่ศูนย์วิจัย วิศวกรรม คลาวด์ อินเทอร์เน็ตของสรรพสิ่ง ไปจนถึงบริการ AI และบิ๊กดาต้า โครงการเหล่านี้ตั้งเป้าดึงดูดนักพัฒนาและผู้เชี่ยวชาญจากทั้งในและต่างประเทศ ตอบโจทย์การยกระดับขีดความสามารถและความสามารถแข่งขันดิจิทัลของอาเซียนได้จริง
ล้วงลึกความสำคัญของ 6G ต่อเศรษฐกิจ-สังคม:
- สนับสนุนเมืองอัจฉริยะ สมาร์ทแฟกทอรี และเครือข่าย AI ขนาดใหญ่ เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันอุตสาหกรรมขั้นสูงของไทย
- วางรากฐานด้านการสื่อสารความเร็วสูงมาก รองรับนวัตกรรมอย่าง XR, Digital Twin, IoT ภาคธุรกิจและบริการสาธารณะ
- เปิดทางสู่ความร่วมมือระดับภูมิภาคและการลงทุนระหว่างประเทศ ผลักดันไทยเป็นศูนย์กลางโครงข่ายและบริการดิจิทัลของอาเซียน
แม้ 6G โลกจะยังอยู่ในช่วงวิจัยและมาตรฐานคาดว่าจะพร้อมเชิงพาณิชย์ช่วงปลายทศวรรษนี้ แต่การออกสตาร์ทไว—ติดตั้งต้นแบบ ทดสอบเชิงลึกในพื้นที่ยุทธศาสตร์อย่าง EEC—ช่วยให้ไทยมีโอกาสเรียนรู้จากของจริงและเป็นผู้นำยุคถัดไปในภูมิภาค เทคโนโลยีไร้สายรุ่นใหม่จึงไม่ใช่แค่เครื่องมือเชื่อมต่อแต่คือพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจและความมั่นคงของประเทศในอนาคต
