เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจภูเก็ตและเมืองท่องเที่ยวหลักทั่วประเทศไทยได้มีการระดมกำลังตรวจสอบใบขับขี่รถจักรยานยนต์ของนักท่องเที่ยวต่างชาติอย่างเข้มงวด หลังพบการใช้ใบขับขี่ปลอมและการขับขี่โดยไม่มีใบอนุญาตอย่างถูกต้อง ส่งผลให้มีนักท่องเที่ยวมากกว่า 17,000 ราย ถูกจับและถูกปรับในช่วงระยะเวลาไม่ถึงเดือน.
ปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้นจากการที่นักท่องเที่ยวจำนวนมาก นิยมเช่ารถจักรยานยนต์ขับขี่ในจังหวัดท่องเที่ยวสำคัญ เช่น ภูเก็ต เชียงใหม่ และพัทยา แต่ปรากฏว่าส่วนหนึ่งไม่มีใบขับขี่ในประเภทสากลหรือใบขับขี่ไทยที่ถูกต้อง ขณะที่อีกส่วนหนึ่งมีการนำใบขับขี่ปลอมมาใช้บริการ ซึ่งบางกลุ่มมีเครือข่ายรับทำใบขับขี่ปลอมและโฆษณาบนโซเชียลมีเดีย.
ผลกระทบและมาตรการของเจ้าหน้าที่
เจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดเผยว่า มาตรการดังกล่าวมีเป้าหมายในการยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยบนท้องถนน ป้องกันอุบัติเหตุและอาชญากรรมจากการขับขี่ผิดกฎหมาย โดยนอกจากการปรับค่าปรับ ยังมีการยึดรถจักรยานยนต์และขึ้นบัญชีผู้กระทำผิด ทั้งนี้กฎหมายไทยกำหนดโทษสำหรับการใช้เอกสารปลอมไว้สูงสุดถึงจำคุก 6 เดือนถึง 5 ปี พร้อมปรับตั้งแต่ 1,000-10,000 บาท.
ตำรวจและกรมการขนส่งทางบกออกประกาศเตือนให้นักท่องเที่ยวหลีกเลี่ยงการซื้อใบขับขี่ปลอม และควรขอใบขับขี่สากล (IDP) หรือดำเนินการขอใบขับขี่ไทยแบบถูกต้องเพื่อป้องกันปัญหาทางกฎหมายและความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น.
แม้ว่านักท่องเที่ยวควรศึกษากฎหมายจราจรไทยและเตรียมเอกสารที่จำเป็นก่อนเดินทางเพื่อให้การเดินทางปลอดภัยและไร้ปัญหา แต่การฉ้อโกงใบขับขี่ในระดับใหญ่ขนาดนี้ จุดเริ่มต้นต้องมีผู้ที่อยู่ในไทยคิดวิธีเลี่ยงกฎหมายด้วยการสร้างช่องทางใบขับขี่ปลอมขึ้นมาก่อน แล้วจึงลามไปสู่นักท่องเที่ยวที่อาจจะไม่รู้ข้อเท็จจริง การจับกุมเฉพาะผู้ใช้จริงไม่อาจแก้ปัญหาได้ถาวร เพราะนักท่องเที่ยวจำนวนมากอาจไม่เข้าใจหรืออาจตกเป็นเหยื่อกลุ่มมิจฉาชีพโดยไม่ตั้งใจ เจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยงานท้องถิ่นควรร่วมกันสืบหาต้นทางการผลิตและกระจายใบขับขี่ปลอม เพื่อหยุดยั้งอาชญากรรมนี้ให้สิ้นสุด พร้อมกู้คืนชื่อเสียงให้การท่องเที่ยวไทยในสายตานักเดินทางทั่วโลก.